อาหารเสริม คือ สารอาหารที่ใช้รับประทานเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก อาจใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หรือเพื่อบำรุงสุขภาพตามความเชื่อของบางบุคคล ส่วนสารอาหารที่มักถูกนำมาทำเป็นอาหารเสริม ได้แก่ วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน พืช ผัก สมุนไพรต่าง ๆ เป็นต้น อาหารเสริมถูกผลิตออกมาให้สามารถรับประทานได้ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ด แบบแคปซูล แบบผง หรือแบบน้ำ โดยอาหารเสริมอาจเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการรักษาทางการแพทย์ ที่ผู้ป่วยต้องรับประทานภายใต้การดูแลจากแพทย์เท่านั้น หรืออาจถูกวางจำหน่ายตามร้านขายยา ซึ่งผู้บริโภคควรรับประทานตามคำแนะนำของเภสัชกรและข้อบ่งชี้ที่ระบุบนฉลากอย่างเคร่งครัด

1. คุณรับประทานผักและผลไม้น้อยเกินไป
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคและป้องกันโรค (CDC) พบว่าผู้ใหญ่ควรบริโภคผลไม้ 1.5-2 ถ้วยทุกวัน แต่การศึกษาล่าสุดพบว่าผู้ใหญ่ร้อยละ 76 รับประทานผลไม้ไม่เพียงพอและมีถึงร้อยละ 87 ที่รับประทานผักไม่เพียงพอ หากคุณพยายามเต็มที่แล้วแต่ยังขาดสารอาหารที่สำคัญอยู่ การบริโภคผักและผลไม้สดจากฟาร์มก็น่าจะช่วยให้ได้รับปริมาณสารอาหารที่เพียงพอในแต่ละวัน
2. ใครจะมีเวลามานับปริมาณสารอาหารล่ะ?
คุณเคยนับปริมาณสารอาหารที่บริโภคเข้าไปในแต่ละวันไหม? รู้ไหมว่าเหนื่อยกว่าการนับปริมาณแคลอรี่อีก นอกจากนี้ต่อให้คุณนับปริมาณสารอาหารและรับประทานอาหารที่หลากหลาย เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชเต็มเมล็ด และเนื้อสัตว์ต่างๆ คุณก็ยังมีโอกาสขาดสารอาหารได้อยู่ดี
3. คุณรับประทานอาหารหลากหลายไม่พอ
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับประทานผักและเนื้อสัตว์ที่มีสารอาหารสูง เช่น ตับวัวจะมีวิตามินบี 12 มากกว่าเนื้อวัวถึง 17 เท่า ว่าแต่ครั้งสุดท้ายที่คุณรับประทานตับวัวคือเมื่อไหร่? ผู้คนส่วนมากมักจะรับประทานอาหารแบบเดิมๆทุกวันติดต่อกันทั้งสัปดาห์
4. คุณภาพดินแย่มากกว่าเดิม
คุณภาพดินเป็นสิ่งสำคัญแต่มักจะถูกมองข้ามไป การศึกษาชี้ว่าอาหารจำนวนมากมีสารอาหารลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1950 ดังนั้นต่อให้คุณรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายทุกวันคุณก็อาจได้รับสารอาหารไม่มากอย่างที่เคย
5. คุณอาจแพ้อาหารบางชนิด
หากคุณแพ้อาหารบางอย่างก็อาจทำให้พลาดสารอาหารที่สำคัญบางส่วนไป ยกตัวอย่างเช่นผลิตภัณฑ์นมอุดมไปด้วยแคลเซียม วิตามินเอ ดี อี และ เค โปรตีน เกลือแร่ และโพรไบโอติก ส่วนข้าวสาลีกับถั่วเหลืองก็มีโปรตีนกับเส้นใยอาหารสูง แต่คนส่วนใหญ่ก็แพ้อาหารเหล่านี้และหลีกเลี่ยงพวกมัน